ต้นหอมผักชี : ประโยชน์และวิธีการปลูก
ต้นหอมผักชี เป็นผักที่นิยมปลูกกันมากในประเทศไทย เพราะสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู ผักชีหอม มีประโยชน์มากมายต่อสุขภาพ และปลูกง่าย เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของต้นหอมผักชี และวิธีการปลูกต้นหอมผักชีกันค่ะ อ่านเพิ่มเติม >>> วิธีปลูกผัก
ลักษณะของต้นหอม คืออะไร
ต้นหอม เป็นพืชสมุนไพรที่หลายคนรู้จักกันดี มีลักษณะเป็นพืชล้มลุก มีหัวใต้ดิน ลำต้นกลมๆ ลำต้นจะถูกห่อหุ้มไปด้วยกาบใบโดยรอบๆ ใบเป็นท่อยาวปลายแหลม ภายในกลวง มีสีเขียว รสชาติเผ็ดร้อน ดอกออกเป็นช่อ มีลักษณะคล้ายร่ม มีกลิ่นฉุน รสชาติเผ็ดร้อน ต้น หอม สรรพคุณ
ส่วนประกอบของต้นหอม
ต้นหอมสามารถแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่
- หัว: หัวของต้นหอมมีลักษณะกลมๆ สีขาว มีกลิ่นฉุนและรสชาติเผ็ดร้อน ใช้รับประทานได้เช่นเดียวกับใบและดอก
- ลำต้น: ลำต้นของต้นหอมเป็นท่อยาว มีสีเขียว ใช้รับประทานได้เช่นเดียวกับใบ
- ใบ: ใบของต้นหอมเป็นท่อยาว ปลายแหลม ภายในกลวง มีสีเขียว รสชาติเผ็ดร้อน ใช้รับประทานได้ทั้งสดและสุก
ประโยชน์ของต้นหอม
ต้นหอมมีประโยชน์มากมายต่อร่างกาย ดังนี้
- ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย
- ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง
- ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
- ช่วยลดความดันโลหิต
- ช่วยป้องกันโรคหัวใจ
- ช่วยระบบขับถ่าย
- ช่วยลดอาการหวัดและคัดจมูก
- ช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ
- ช่วยบำรุงผิวพรรณ
- ช่วยลดน้ำหนัก
สรรพคุณของต้นหอม
ต้นหอมมีสรรพคุณทางยาหลายประการ ดังนี้
- แก้หวัด คัดจมูก น้ำมูกไหล
- แก้ไอ แก้หลอดลมอักเสบ
- แก้ปวดศีรษะ
- แก้ท้องผูก
- แก้เบาหวาน
- แก้โรคผิวหนัง
- แก้แมลงสัตว์กัดต่อย
ลักษณะของผักชี คืออะไร
ผักชี (Coriandrum sativum) เป็นพืชล้มลุกขนาดเล็กในวงศ์ Apiaceae มีถิ่นกำเนิดในแถบเมดิเตอร์เรเนียนและเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ ปัจจุบันปลูกกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก ผักชีมีหลายชื่อเรียกแตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่น เช่น ผักหอม ผักหอมป้อม ผักหอมผอม ผักชีลาว ผักชีจีน เป็นต้น
ผักชีมีลักษณะดังนี้
- ลำต้นตั้งตรง กลวง สีเขียว มีความสูงประมาณ 30-60 ซม.
- ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ออกเรียงสลับกันตามลำต้น ใบย่อยมีรูปร่างเป็นแฉก หยักเว้าลึก
- ดอกออกเป็นช่อที่ปลายยอด มีขนาดเล็ก สีขาวหรือชมพูอ่อน
- ผลมีลักษณะกลมรี แก่จัดเป็นสีเหลืองอมน้ำตาล มีเมล็ด 2 เมล็ด
ลักษณะของผักชี คืออะไร
ผักชี (Coriandrum sativum) เป็นพืชล้มลุกขนาดเล็กในวงศ์ Apiaceae มีถิ่นกำเนิดในแถบเมดิเตอร์เรเนียนและเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ ปัจจุบันปลูกกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก ผักชีมีหลายชื่อเรียกแตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่น เช่น ผักหอม ผักหอมป้อม ผักหอมผอม ผักชีลาว ผักชีจีน เป็นต้น
ผักชีมีลักษณะดังนี้
- ลำต้นตั้งตรง กลวง สีเขียว มีความสูงประมาณ 30-60 ซม.
- ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ออกเรียงสลับกันตามลำต้น ใบย่อยมีรูปร่างเป็นแฉก หยักเว้าลึก
- ดอกออกเป็นช่อที่ปลายยอด มีขนาดเล็ก สีขาวหรือชมพูอ่อน
- ผลมีลักษณะกลมรี แก่จัดเป็นสีเหลืองอมน้ำตาล มีเมล็ด 2 เมล็ด
ส่วนต่างๆ ของผักชี
ผักชีทุกส่วนสามารถนำมารับประทานได้ และมีประโยชน์ต่อสุขภาพแตกต่างกันไป ดังนี้
- ใบผักชี นิยมใช้โรยหน้าอาหารเพื่อเพิ่มความหอมและแต่งสีสัน ใบผักชีอุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินเอ และแร่ธาตุต่างๆ เช่น แคลเซียม เหล็ก โพแทสเซียม และแมกนีเซียม
- ลำต้นผักชี นิยมนำมาตัดเป็นท่อนเล็กๆ แล้วใส่ในน้ำจิ้มหรือน้ำส้มตำ ลำต้นผักชีมีรสชาติเผ็ดเล็กน้อย และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว
- รากผักชี นิยมนำมาใช้หมักเนื้อสัตว์เพื่อดับกลิ่นคาว และเพิ่มความหอม รากผักชีมีฤทธิ์อุ่น ช่วยขับลมและแก้ท้องอืด
- เมล็ดผักชี นิยมนำมาคั่วหรือตำให้ละเอียดก่อนนำไปใช้ปรุงอาหาร เช่น แกงมัสมั่น แกงเผ็ด เมล็ดผักชีมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว และมีรสชาติเผ็ดร้อนเล็กน้อย
ประโยชน์ของผักชี
ผักชี เป็นพืชสมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ดังนี้
- ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
- ช่วยลดความดันโลหิต
- ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
- ช่วยย่อยอาหาร
- ช่วยขับลม
- ช่วยแก้ท้องอืด
- ช่วยลดอาการเจ็บคอ
- ช่วยลดอาการปวดศีรษะ
- ช่วยลดอาการเครียด
- ช่วยบำรุงสายตา
- ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
การใช้ผักชีปรุงอาหาร
ผักชีสามารถใช้ปรุงอาหารได้หลากหลายชนิด เช่น
- อาหารไทย เช่น แกงส้ม แกงเขียวหวาน แกงมัสมั่น แกงเผ็ด ลาบ ก้อย น้ำจิ้มแจ่ว น้ำส้มตำ
- อาหารจีน เช่น เกี๊ยวซ่า ซาลาเปา ก๋วยเตี๋ยวหลอด ผัดหมี่
- อาหารเม็กซิกัน เช่น Guacamole (น้ำพริกแอโวคาโด)